ร้าน มะกะระ พระกรุ
www.makara.99wat.com
Tel: 0813116011
0818306399

พระเครื่องทุกองค์ รับประกันเป็นพระแท้ ตามมาตราฐานสากล

พร้อม ส่งประกวดเพื่อยืนยันความแท้กับงานประกวดระดับมาตราฐาน 

สมาคมผู้นิยมพระเครื่องพระบูชาไทย 

(Thai Buddha Image Admiration Association)  

หรือยินดี ส่งตรวจรับรองพระแท้

โดย นิตยสารท่าพระจันทร์ , การันตีพระ , งานประกวดพระเครื่องพระบูชาโดยสมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย

เงินท่านแท้ ท่านก็ควรได้พระแท้ไปครอบครอง 

 
พระท่ามะปราง กำแพงเพชร เนื้อดินทุ่งเศรษฐี


  ส่งข้อความ

ชื่อร้านค้า
มะกะระ พระกรุ
โดย
makara995
ประเภทพระเครื่อง
พระกรุ
ชื่อพระ
พระท่ามะปราง กำแพงเพชร เนื้อดินทุ่งเศรษฐี
รายละเอียด
พระท่ามะปราง นั้นปรากฏอยู่หลายเมือง นอกจากของจังหวัดกำแพงเพชรแล้ว ยังเจอที่จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดสุโขทัย จังหวัดพิจิตร จังหวัดสุพรรณบุรีก็พบ แต่ถ้าถือว่าสวยงามที่สุด ก็ต้องยกให้จังหวัดกำแพงเพชร

พระท่ามะปรางของกำแพงเพชรนั้น เป็นพระตระกูลช่างสกุลช่างสุโขทัย แบบวัดตะกวนถ้าเป็นพระพุทธรูปก็ถือว่าเป็นศิลปะยุคต้นเลยทีเดียว พระท่ามะปรางที่พบจะเป็นประเภทเนื้อชินเงินมากที่สุด รองลงมาก็เป็นประเภทเนื้อดิน เนื้อว่านตะกั่วสนิมแดง แต่เนื้อชินเงินถือว่านิยมที่สุด นอกจากศิลปะเป็นเลิศแล้ว พุทธคุณก็มิได้ยิ่งหย่อนกว่าศิลปะ ถือว่าเรื่องแคล้วคลาดดีที่สุด
จากข้อมูล สารานุกรมพระเครื่อง / สมาคมพระเครื่องพระบูชาไทย

มีกูแล้วไม่จน"พุทธคุณแห่ง'พระกำแพง' พระนางกำแพง หัวเรือเมล์ กรุเจดีย์กลางทุ่ง ลานทุ่งเศรษฐี เนื้อดิน จ.กำแพงเพชร + บัตรรับรอง GPra
รายละเอียด มีกูแล้วไม่จน"พุทธคุณแห่ง'พระกำแพง'

จำนวนกรุต่างๆในจังหวัดกำแพงเพชรตามประวัติรวบรวมได้ประมาณ 53 กรุ จะมีกรุทุ่งเศรษฐีรวมอยู่ด้วยมีจำนวน 9 กรุ วิธีการแบ่งกรุโดยทั่วไปอาศัยเส้นลำน้ำแม่ปิงเป็นหลัก แนวลำน้ำแม่ปิงไหลจากเหนือลงใต้ ให้นับทางฝั่งขวาของลำน้ำซึ่งเป็นทุ่งกว้างอยู่ตรงข้ามตัวเมืองกำแพงเพชร เรียกว่าทุ่งเศรษฐี

กรุทุ่งเศรษฐี ( 9 กรุ)ประกอบด้วย
1)วัดพระบรมธาตุ
2)วัดหนองพิกุล (นิยมเรียกสั้นๆว่า วัดพิกุล)
3)วัดซุ้มกอ หรือ นาตาคำ
4)บ้านเศรษฐี
5)วัดฤาษี
6)วัดน้อย หรือ ซุ้มกอดำ
7)วัดหนองลังกา
8)วัดเจดีย์กลางทุ่ง
และ 9)วัดหัวยาง

ทำไมคนทั่วไปจึงนิยมพระกรุทุ่งเศรษฐีมากกว่ากรุอื่น
เหตุผลหนึ่งที่ทำให้พระกรุทุ่งเศรษฐีได้รับความนิยมมากกว่ากรุอื่นๆก็คือเรื่องประวัติการสร้างพระ คนส่วนใหญ่เคยได้ยินเรื่องราวของแผ่นลานเงินที่จารึกประวัติการสร้างพระซุ้มกอกรุบรมธาตุ ที่มีบทความตอนหนึ่งว่า " ใครมีกูไว้ไม่จน "
จากประสบการณ์ของผู้บูชาเล่าลือกันว่า มีพุทธคุณดีทางแคล้วคลาด เมตตาสูง และอำนวยโชคลาภโภคทรัพย์มิได้ขาดมือ

พระเครื่องในสกุลกำแพงเพชรนั้น มีตำนานปรากฏชัดเจนจากการพบจารึกบนแผ่นลานเงิน ในกรุขณะรื้อพระเจดีย์องค์ใหญ่ของวัดพระบรมธาตุ เมืองนครชุม และเมื่อ พ.ศ.๒๓๙๒ สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี แห่งวัดระฆังฯ ซึ่งขึ้นมาเยี่ยมญาติที่เมืองกำแพงเพชร ก็ได้อ่านศิลาจารึกอักษรไทยโบราณ
ที่วัดเสด็จ ฝั่งเมืองกำแพงเพชรมีอยู่ในจารึกได้กล่าวถึงพิธีการสร้างพระและอุปเท่ห์การอาราธนาพร ะ รวมถึงพุทธานุภาพที่มหัศจรรย์อย่างยิ่งของพระเครื่องสกุลกำแพงเพชรทั้งหลาย จากหลักฐานการศึกษา เทียบเคียงทั้งหลายมีข้อสันนิษฐาน ที่น่าเชื่อถือได้โดยสรุปว่า พระกำแพงเพชรนั้นสร้างโดยพระมหาธรรมราชาลิไท
เมื่อครั้งดำรงพระยศผู้ครองเมืองชากังราว ในฐานะเมืองหน้าด่านสำคัญของอาณาจักรสุโขทัย ก่อนที่จะได้ทรงรับสถาปนาเป็นกษัตริย์องค์ที่ ๕ แห่งราชวงศ์สุโขทัยและ ปลุกเสกโดยพระฤๅษี ดังนั้นอายุการสร้างของพระกำแพงเพชรจนถึงปัจจุบันจึงมีประมาณ ๗๐๐-๘๐๐ ปี พระกรุเมืองกำแพงเพชรกำเนิดที่พระบรมธาตุนครชุม
จังหวัดกำแพงเพชร เป็นพระเครื่องอันดับหนึ่ง ของเมืองกำแพงเพชรมาช้านาน พระที่พบในบริเวณทุ่งเศรษฐีนี้ถ้าเป็นพระเนื้อดินเผาแล้วจะมีเนื้อที่ละเอียดอ่อน พุทธลักษณะเป็นพระเนื้อดินผสมว่านและเกสรดอกไม้ พระเครื่องเมืองกำแพงเพชร เริ่มเป็นที่รู้จักและนิยมกันขึ้นมา ในสมัยของพระพุทธเจ้าหลวง รัชกาลที่ ๕
"พุทธคุณของพระกรุเมืองกำแพงเพชร เน้นหนักทางโภคทรัพย์และ มหานิยม" ผู้ใดมีไว้ในครอบครองจะส่งผลความเจริญก้าวหน้าให้กับชีวิต มีครบเครื่องไม่ว่าเรื่องเมตตามหานิยม แคล้วคลาด ตลอดจนเรื่องโชคลาภ จนมีคำพูดที่พูดติดปากกันมาแต่โบราณกาลว่า “มีกูแล้วไม่จน” ถ้าไปในที่ต่างๆ อยากกินน้ำ หาน้ำไม่ได้
ท่านให้อาราธนาพระใส่ไว้ในปาก หายอยากน้ำแล ถ้าเอาพระไว้บนศีรษะแล้ว ปืนแลหน้าไม้ยิงมาเป็นห่าฝนก็ไม่ถูกตัวเรา เป็นต้น มีเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมาว่า แม้องค์พระจะชำรุดเหลือเพียงครึ่งองค์ หรือแค่เพียงส่วนพระบาทหายไป พุทธคุณพระกำแพง เหล่านี้เชื่อถือกันมาช้านานแล้วตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ฯลฯ

ผู้มีวาสนาได้ครอบครองพระเครื่องเมืองกำแพงฯ มีตำนานเล่าขานกัน มาดังนี้แล ฯ

๑) ก่อนคล้องพระ ให้อาราธนาว่า .. พุทธ สัง มัง คะลัง โล เก ฯ .. พุทธัง อาราธนานัง ธัมมัง อาราธนานัง สังฆัง อาราธนานัง ฯ .. พุทธัง ประสิทธิ เม ธัมมัง ประสิทธิ เม สังฆัง ประสิทธิ เม ฯ แล้ว บริกรรมว่า " อิ ติ ปิ โส ภะ กู รา ติ ฯ " 3 จบ หรือ 7 จบ แล้วตามด้วย " อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ฯ " 3 จบ หรือ 7 จบ จะศักดิ์สิทธิ์ทุกประการแล ฯ

๒.) จะออกผจญข้าศึก ศัตรู หรือ ออกสงคราม ให้ เอาพระใส่น้ำมันหอม หรือน้ำมันงา เสกด้วย นวหรคุณ " อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ฯ " แล้วเอาน้ำมันหอมทาผม จะศักดิ์สิทธิ์ ตามปรารถนาทุกประการแล ฯ

๓) จะให้คงกระพันชาตรี ให้เอาพระสรงน้ำมันหอม แล้วเสกด้วย " อิ ติ ปิ โส ภะ กู รา ติ ฯ " เสก ๓ จบ หรือ ๗ จบ แล้วใส่ในขันสำริด อธิษฐานตามปรารถนาเถิด จะเกิดผลทุกประการ แล ฯ

๔) จะให้เป็นเมตตามหานิยม ใคร่มาตุคาม ให้เอาพระสรงน้ำมันหอมใส่ใบพลูทาตัว จะประสิทธิ์แก่ชนทั้งหลาย แล ฯ

๕) จะให้สง่า เจรจาเป็นที่น่าเกรงขาม เป็นมหาอำนาจ ให้เอาพระใส่น้ำมันหอม แล้วนำน้ำมันหอม ไปหุงขี้ผึ้ง เสกด้วย " อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ฯ " ๗ จบ แล้วใช้ขี้ผึ้งทาปาก

๖) จะให้ค้าขายดี มหานิยม เดินทางไกล ขึ้นรถลงเรือ ให้นมัสการด้วย หัวใจพาหุง " พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ ฯ " แล้ว เอาพระสรงน้ำมันหอม แล้วเสกด้วยพระพุทธคุณ " อิ ติ ปิ โส ภะ กู รา ติ ฯ "๗ จบ จะ ประสิทธิ์ แก่คนทั้งหลายแล ฯ

๗) จะให้สวัสดี สถาพรทุกวัน ให้เอาดอกบัว หรือ ดอกไม้บูชาทุกวัน ปรารถนาสิ่งใดจะสมปรารถนาทุกประการแล ฯ

๘) จะให้ความสูญ ให้เอาพระสรงน้ำมันหอม แล้วเอาด้าย ๑๑ เส้นชุบน้ำมันหอมแล้วนำไปทำไส้เทียนถวายพระ แล้วอธิษฐานตามปรารถนาแล ฯ

๙) ถ้าจะสระหัว ให้เขียนยันต์ไส้เทียนใส่ไส้เทียน ยันต์ตามนี้ ขณะเขียนยันต์ใส่น้ำสระผม ให้บริกรรมคาถาดังนี้
" ทะ ธิ วิ ผะมะ อะ มะ พะ ปะติ พะ มง คุ ฯ อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ ฯ "แล้ง เสกด้วยคาถาว่า " นะ โม ฯ ๓ จบ …. แล้วว่า พาหุง " พา มา นา อุ กะ สะ นะ ทุ ฯ" แล้วว่า " อิ ติปิโส ภะคะวา มหาเชยยังมังคะลัง " แล้วตามด้วย " นะ มะ นะ อะ นอกอ นะ กะ กอ ออ นอ อะ นะอะกะอัง อุมิ อะมิ มะหิสุตัง สุนะพุทธัง อะสุนะอะ ฯ แล้วว่า " กิริมิทิ กุรุมุทุ กะระมะทะ เกเรเมเท ฯ " เสกแต่ละบทว่า ๓ จบ หรือ ๗ จบ แล ฯ จากนั้นจึงลงมือสระผม แล ฯ
ราคา
-
เบอร์โทรศัพท์ติดต่อ
0813116011
ID LINE
0818306399
จำนวนการเข้าชม
9,184 ครั้ง
บัญชีธนาคารที่ใช้ยืนยันตัวตน
ธนาคารกรุงเทพ / 244-0-006xx-x

แสดงความคิดเห็น